Meizu สมาร์ทโฟนจากจีนที่มีคุณภาพไม่ธรรมดา เทียบเข้าขั้นถึงกับเป็นคู่แข่ง Xaiomi ได้ทำการเปิดตัว Meizu MX5 สมาร์ทโฟนรองเรือธงรุ่นล่าสุดของบริษัท และขายในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว (ตอนนี้รุ่นเรือธงที่จีนคือ PRO 5 ซึ่งจะตามมาภายหลัง) สำหรับจุดเด่นรุ่นนี้ก็คือเป็นรุ่นต่อยอดของ MX4 และนิยามตอนเปิดตัวของมันก็คือ “สวยกว่าไอโฟน” (a bit more good-looking than iPhone)

Meizu MX5
Meizu MX5

Meizu MX5

เปิดขายในไทยอย่างเป็นทางการผ่าน Lazada (ขาว, ดำ, เทา) ราคา 10,990 บาท โดยรุ่นที่นำมาขายในไทยจะเป็นรุ่นความจุ 32 GB รองรับความถี่ WCDMA 900/1900/2100 MHz และ LTE 1800/2100/2600 MHz สรุปก็คือใช้ AIS จะเหมาะที่สุด เนื่องจากมันไม่รองรับ 3G ความถี่ 850 MHz นั่นเองครับ

MEIZU - MX5 (2)

สเปค | Meizu MX5

  • ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 ครอบทับด้วย Flyme OS 4.5
  • หน่วยประมวลผล Mediatek Helio X10 (MT6795) 2.2 GHz
  • หน้าจอ AMOLED 5.5″ (1080 x 1920 พิกเซล) กระจก Gorilla Glass 3
  • แรม DDR3 3 GB
  • รอม 32 GB
  • กล้องหลัง 20.7 MP f/2.2 พร้อม LED flash และ Laser Auto Focus
  • กล้องหน้า 5 MP f/2.0
  • รองรับ 2 ซิม (Dual Standby)
  • 4G LTE ความถี่ 1800/2100/2600 MHz
  • 3G ความถี่ 900/1900/2100 MHz
  • ระบบสแกนลายนิ้วมือ mTouch 2.0
  • ฟีเจอร์ชาร์จเร็ว mCharge (ชาร์จแบต 25% ได้ภายใน 10 นาที และ 60% ภายใน 40 นาที)
  • แบตเตอรี่ 3,150 mAh (ถอดไม่ได้)
  • น้ำหนัก 149 กรัม

สำหรับนิยามคำว่า “สวยกว่าไอโฟน” ไม่ได้เป็นแค่คำโฆษณายอตัวเอง แต่เกิดจากการใช้โลหะทั้งเครื่อง และคิดค้นวัสดุที่ไม่ลดทอนสัญญาณมือถือ (เป็นเหตุที่ว่าทำไม iPhone ถึงต้องมีขีดสีขาวบริเวณหัวและท้ายเครื่อง) สีและโลหะเป็นเนื้อเดียวกันจึงไม่ลอก โดยใช้กระบวนการทั้งหมด 68 ขั้นตอน ด้วยความแม่นยำในการผลิตระดับ 0.01 มิลลิเมตร จึงทำให้แต่ละเครื่องต้องใช้เวลาผลิตถึง 30 วัน

MEIZU - MX5 (3)

สำหรับราคา 10,990 บาท ที่ขายในไทยถือว่าไม่แพงเลย เพราะราคาเปิดตัวที่จีน 1,999 หยวน (รุ่น 32 GB) เทียบค่าเงินกับราคาเครื่องหิ้วแล้วถือว่าพอกัน ไม่ต้องบินไปซื้อถึงเมืองจีนแถมมีประกันศูนย์ให้อุ่นใจ

MEIZU - MX5 (4)

อุปกรณ์ทั้งหมดมาแนวเดียวกับ Meizu M2 Note คือไม่มีหูฟังให้ (อีกแล้ว – -*) แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาเพราะหลายแบรนด์เดี๋ยวนี้ก็เริ่มไม่ให้กัน (ไปโทษ Nexus ก่อนเลยตัวดี – -*) ส่วนที่ชาร์จและสายชาร์จยังอยู่ครบดีตามปกติครับ

MEIZU - MX5 (5)

Meizu MX5 ขึ้นรูปด้วยโลหะชิ้นเดียวแบบ Unibody ความหนาเพียง 7.6 มม. ทำให้ได้เครื่องที่สวยว้าวจับใจ ส่วนหน่วยประมวลผลครั้งนี้เป็นการเลือกเปลี่ยนจาก Samsung Exynos ที่เคยใช้ใน MX4 Pro มาเป็นหน่วยประมวลผล Helio X10 (และใน Pro 5 ก็กลับไปใช้ Samsung Exynos เหมือนเดิม) แต่อย่าได้ดูถูกไปนะครับ Octa-core 64-bit ความเร็ว 2.2GHz ของ MediaTek ตัวนี้แรงใช้ได้เลยทีเดียว

MEIZU - MX5 (6)

ด้านหลังตัวเครื่องสวยงามมากถึงมากที่สุด มีการโค้งเข้ากับสรีระมือเวลาถือ ทำให้รู้สึกมั่นคงขึ้นถึงแม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนจอ 5.5″ ก็ตามที และถึงแม้ว่าจะเป็นโลหะแต่จับแล้วก็ไม่ลื่นมือแต่อย่างใด

MEIZU - MX5 (7)

ระบบชาร์จแบบใหม่ mCharge สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-25% ได้ภายใน 10 นาที และ 0-60% ได้ภายใน 40 นาที ดังนั้นกลบข้อเสียเรื่องชาร์จแบตเตอรี่ 3,150 mAh ช้าไปได้เลย (ตรงนี้เข้าใจว่าต้องใช้กับที่ชาร์จของมันเท่านั้น)

MEIZU - MX5 (8)

ด้านข้างเป็นช่องใส่ซิมการ์ดแบบ Nano-SIM ทั้งสองช่องรองรับ 4G LTE เหมือนกันหมด (ไม่ต้องเลือกแล้วไชโย!) แถมยังสามารถสแตนด์บายรับสายได้พร้อมกัน ต่างจากบางรุ่นที่สองซิมจริงแต่ใช้งานจริงได้แค่ทีละเบอร์ ทำให้พลาดรับสายสำคัญไปหลายรายการ (โดยเฉพาะเบอร์แฟน)

MEIZU - MX5 (9)

หันมาดูอีกด้านจะเป็นปุ่มปลดล็อคแล้วก็ปุ่มปรับเสียงของตัวเครื่อง ตรงนี้ก็ทำออกมาได้เนียนไม่แพ้กันครับ

MEIZU - MX5 (10)

กล้องหลัง Meizu ได้เลือกใช้เลนส์ของ Sony IMX220 f/2.2 ที่ผลิตจากเลนส์ถึง 6 ชิ้น ครอบทับกันรอยขีดข่วนด้วยกระจก Gorilla Glass 3 อีกทั้งยังแถมด้วย Laser Auto Focus (โฟกัสเพียง 0.2 วินาที ในระยะ 50 เซนติเมตร) แต่เดี๋ยวก่อน! ถ้าเท่านั้นยังไม่พอยังมีการแถมแฟลชสองสี Two-tone ให้ไปอีกด้วย ดูตัวอย่างภาพ

MEIZU - MX5 (11)

หน้าจอมาพร้อมเทคโนโลยี AMOLED ความละเอียด Full HD มีค่าความสว่างอยู่ที่ 350 cd/m2 ส่วนอัตราคอนทราสต์ 10,000:1 แถมยังบางลงกว่ารุ่น MX4 ถึง 32% สามารถสู้แสงแดดได้ดี ในขณะที่เวลาอ่านหนังสือตอนกลางคืนก็ยังสบายตาอยู่ เพราะสามารถลดความสว่างให้ต่ำสุดเพียง 1.4 nit

Screenshots_MX5 (1)

ใช้งานจริง | Meizu MX5

ระบบปฏิบัติการถึงแม้จะเป็น Android เหมือนกับแบรนด์อื่น แต่ทาง Meizu MX5 ได้มีการปรับแต่งเล็กน้อยเป็น Flyme OS 4.5 ที่ทำงาน 64-bit แบบเต็มรูปแบบ มีการอัพเดตฟีเจอร์กว่า 100 อย่างเข้ามาใหม่ (รับรองไม่เบื่อแน่นอน) ทางบริษัทฯ ได้อวดว่ามันลื่นขึ้นถึง 20% แถมยังประหยัดพลังงานอีกด้วย

ส่วนตัวแล้วค่อนข้างรู้สึกแปลกและไม่ค่อยชินกับ Flyme OS สักเท่าไหร่นัก (ส่วนตัวชอบ MIUI มากกว่า) การใช้งานตรงนี้จะต้องปรับพฤติกรรมเล็กน้อย เนื่องจากไม่มีปุ่ม Recent App, Back ให้ใช้งาน (อันที่จริงแตะเบาที่ปุ่ม Home นั่นแหล่ะคือการกด Back) ส่วนถ้าจะสลับแอปฯ ให้ปัดนิ้วจากล่างขึ้นบนแทน

Screenshots_MX5 (2)

คะแนนเมื่อทดสอบผ่าน AnTuTu แล้วได้สูงถึง 52,257 คะแนน เมื่อเทียบกับราคาแล้วดูเหมือนจะน่าเล่นกว่า ZTE Blade S7 อยู่หลายเท่า แต่ถ้างบน้อยกว่านี้ครึ่งนึงจะลดลงไปเล่นตัว Meizu M2 Note ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน

Screenshots_MX5 (3)

ในส่วนของกล้องสามารถถ่ายวิดีโอได้ถึง 4K H.265 หรือลูกเล่นอย่าง Slow-motion 100fps 720P ก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังสามารถปรับโหมดได้ดังนี้

  • Auto
  • Manual
  • Beauty
  • Panorama
  • Light field
  • Scan
  • Slow-motion
  • Macro

ความเร็วชัตเตอร์สามารถเลือกได้ตั้งแต่ 1/1000s ไปจนถึง 20s ส่วนค่า ISO สามารถดันได้จนถึง 1,600 แต่คุณภาพอาจไม่ค่อยดี

กล้องหลัง | Meizu MX5

จับโฟกัสวัตถุค่อนข้างไวมาก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะ Laser Auto Focus สำหรับเรื่องการปรับสมดุลแสงระบบค่อนข้างมีปัญหาอยู่บ้าง เหมือนกับว่าพยายามจะดันขึ้นอย่างเดียว (กรณีโฟกัสไปยังที่มืด) หากสภาพแสงเป็นใจจะได้คุณภาพออกมาค่อนข้างดีเยี่ยม แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่แนะนำสำหรับถ่ายวิวกลางคืนครับ

กล้องหน้า | Meizu MX5

สำหรับกล้องหน้าก็ไม่ธรรมดา ด้วยความละเอียด 5 MP f/2.0 และมีระบบ Face AE ช่วยเร่งแสงใบหน้า (FotoNation 2.0) จนทำให้รูปภาพออกมาดูเป็นธรรมชาติ และไม่ขาวจนกระด้างเกินไป (อันที่จริงมีโหมด Beauty แต่ผมไม่เปิดใช้เพราะอยากลองแบบ Auto มากกว่า) คุณภาพที่ได้ถือว่าประทับใจดีครับ

ข้อดี

  1. วัสดุพรีเมี่ยม งานประกอบเนี๊ยบ
  2. หน้าจอสวยและสู้แสงได้ดี
  3. ระบบปฏิบัติการ Flyme 4.5
  4. กล้องหน้าและหลังคุณภาพสูง
  5. สแกนลายนิ้วมือที่รวดเร็ว
  6. แบตเตอรี่เพียงพอสำหรับหนึ่งวัน

ข้อเสีย

  1. ไม่รองรับ 3G ความถี่ 850 MHz
  2. ไม่รองรับ microSD

สรุป

สมาร์ทโฟนระดับบนในราคาระดับกลาง สำหรับคนที่เบื่อ Android แบบเดิมแล้วอยากลองอะไรที่แปลกใหม่ ตัวเครื่องทำออกมาได้ลงตัวมาก (ยกเว้นข้อเสียสองข้อที่กล่าวมา) และถึงแม้ว่าจะมีหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5″ แต่การใช้งานจริงแทบไม่รู้สึกเกะกะ เนื่องจากขอบจอที่มีขนาดเล็กและการบริหารพื้นที่เครื่องได้เป็นอย่างดี Meizu MX5 เป็นแบรนด์จีนที่ถือได้อย่างภาคภูมิใจอย่างแท้จริง

ขอขอบคุณ : Meizu Thailand ที่เอื้อเฟื้อส่งสินค้ามาให้รีวิว