SSD รุ่นใหม่จาก Kingston ในตระกูล HyperX ซึ่งทาง Kingston ได้แตกไลน์การผลิตออกใหม่โดยใช้ชื่อรุ่น Savage เป็น SSD ที่เน้นการใช้งานสำหรับ Desktop PC หรือ Notebook ได้อย่างลงตัวแถมมีประสิทธิภาพจาก Chip Controller จาก Phison Electronics โดยใช้ Chip Controller รุ่น PS3110-S10-X สำหรับเป็นตัวควบคุมการทำงานโดยตัว NAND Flash Memory SSD เป็นของทาง Kingston เองครับโดย Kingston Savage SSD นี้ทาง Kingston ได้วางไว้สำหรับตลาดระดับกลางแต่สิ่งที่พิเศษกว่า SSD รุ่นอื่น ๆ ของ Kingston เองคงเป็นเรื่องความเป็นพรีเมี่ยมโปรดักส์ สำหรับรุ่น Savage SSD​ นี้จะเป็นการออกมาตอบโจทย์​สำหรับผู้ที่ต้องการ SSD ที่มี​ประสิทธิภาพ​ความเร็วในการอ่าน/เขียน ข้อมูลที่รวดเร็วและให้มากกว่าการเป็นเพียง​ SSD​ ทั่วไปแล้วเจ้าตัว Kingston HyperX Savage SSD รุ่นใหม่นี้จะมีอะไรพิเศษแค่ไหนอ่านต่อเลยครับ

[divider]

Full Specifications

 

iReviewInTh_Kingston_Savage_SSD_SpecificationsView Kingston Savage SSD – Datasheet

Current Price : 4,150 Bath (Advice)  – 4,490 Bath (Memorytoday.com)

จะเห็นได้ว่าใน Spec Sheet ของตัว Kingston HyperX Savage SSD นี้จะมีความจะตั้งแต่ 120GB , 240GB, 480GB และ 960GB ซึ่งแต่ล่ะขนาดความจุจะมีความเร็วในการอ่าน/เขียน ข้อมูลไม่เท่ากันครับซึ่งสำหรับรุ่นที่ทาง Kingston ส่งมาให้เราได้ทดสอบและรีวิวจะเป็นรุ่น 240GB อยากบอกจริง ๆ ว่าในตลาด ณ ตอนนี้ความต้องการของผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่จะประกอบ Computer PC ให้แรง ๆ หรือคนที่มองหา SSD เพื่อนำไปอัพเกรด Notebook ของตนเองให้แร๊งแรงส์เขามองที่ความจุ 240GB , 256GB ขึ้นไปแล้วครับ

[divider]

Unboxing

ลักษณะของ Packaging ของ Kingston HyperX Savage SSD นั้นตัวกล่องจะโดดเด่นมากจะว่าเป็นโทนแบบดุ ๆ ก็ว่าได้เป็น Packaging ที่ออกแบบมาดีดูหรูนิด ๆ หน้ากล่องเองจะบอกรายละเอียด ความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลของ Kingston HyperX Savage SSD อย่างชัดเจนโดยความเร็วในการอ่านเขียนของรุ่น 240GB SHSS37A/240G นี้ค่า Read =  560MB/s และ Write = 530MB/s ครับ ซึ่งเป็น แล้วเมื่อเปิดกล่องออกมาก็เจอตัวเป็น ๆ ของ Kingston HyperX Savage SSD ก่อนเลยนอนอยู่ในฟ้องน้ำแล้วสังเกตให้ดีจะพบว่าบนตัวฟ้องน้ำก็ฉลุเป็นลายโลโก้ HyperX พอเปิดอีกชั้นก็จะพบกับอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ซึ่งจะมี

  • น๊อต 2 ถุง
  • ไขขวง 1 ชุด
  • สาย SATA3 1 เส้น
  • สาย USB 3.0 1 เส้น
  • คู่มือและสติกเกอร์ HyperX เก๋ ๆ 1 ชุด
  • External Box Enclosure 2.5 นิ้ว 1 ชุด
  • ที่รองตัว SSD 1 อันใช้ติดที่ตัว SSD เพื่อแปลงให้ความหนาจาก 7mm. เป็นขนาด 9.5mm.

iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_128

  • บัตรคูปอง Code สำหรับดาวน์โหลดโปรแกรม Acronics True Image HD ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ที่ kingston.com/cloning

แต่น่าแปลกใจที่ไม่แถมถาดแปลง SSD จาก 2.5 นิ้วเป็น 3.5 นิ้วสำหรับใช้กับ Desktop PC กลายเป็นข้อเสียไปเลยซึ่งจริง ๆ แล้วควรแถมมาให้ครับ

[divider]

Body and Design

งานการออกแบบตัว Kingston HyperX Savage SSD 240GB นั้นตัวกล่องทำได้ดีเป็นเอกลักษณ์ชัดเจนโดยใช้ธีมส์สี ดำแดง เป็นจุดขายและความบางของตัว SSD อยู่ที่ 7mm. ซึ่งความบางระดับนี้สามารถใส่กับ Notebook ที่ใช้ Harddisk แบบ Slim ได้สบาย ๆ ครับ

[divider]

Benchmark and Performance

สำหรับรีวิวนี้ผมจะทำทดสอบ  3 เฟสโดย

  • เฟสที่ 1 – จะเป็นลักษณะ Upgrade Notebook แล้วทดสอบความเร็วแบบจาก Migration OS to SSD ก็คือ Clone หรือ Ghost น่ะแหละครับโดยข้อมูลมีครบส่วนนี้ผู้ใช้หลายคนกังวลว่าถ้าทำ Migration แล้วความเร็วจะตกหรือไม่?
  • เฟสที่ 2 – ทดสอบความเร็วอ่าน/เขียน ข้อมูลโดยนำ Kingston HyperX Savage SSD 240GB นี้ใส่ External Box

[divider]

Phase 1 – Notebook Upgrade KIT

 P1150088ในการอัพเกรดอุปกรณ์หลัก ๆ ก็มีแค่ 2 รายการคือไขขวง 1 อัน และ Kingston HyperX Savage SSD 240GB

P1150106และตัวถาดแปลงสำหรับเอา Harddisk ใส่แทนช่อง DVD ครับสำหรับราคาของถาดแปลงแบบนี้อยู่ราว ๆ 400-600 บาท และสำหรับ Notebook บางรุ่นตัว DVD จะเป็นแบบไหนเช็คด้วยนะครับเพราะมี 2 แบบคือแบบ Full กับแบบ Slim

P1150099เอาไว ๆ วาร์ปให้เห็นภาพเปลี่ยนจาก Harddisk SATA3 Notebook เป็น Kingston HyperX Savage SSD 240GB

P1150103บรรยากาศขณะทดสอบ

ตัวเครื่องที่ใช้ทดสอบเป็น Dell Inspiron 3521 – Intel Core i3 3217U , Ram DDR3 Bus 1600 8GB , Harddisk 500GB Seagate Momentus , Chipset Intel HM76

iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_bm_19

 iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_bm_18

สภาพ Windows Environment เป็นสภาพแวดล้อมของระบบหลังจากที่ทำ Migration OS จาก Harddisk ไป Kingston HyperX Savage SSD 240GB เสร็จแล้วสังเกตได้นะครับว่า Drive D, E , F นั้นคือตัว Harddisk Seagate เดิมที่ติดมาจากโรงงาน Dell

Test with CrystalDisk Mark 4.0.3 – Result

iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_233ทดสอบทั้งหมด 4 เฟสด้วยกันกับ CrystalDisk Mark 4.0.3 อยากบอกตรงนี้เลยว่าต่อให้ทำ Migration เสร็จแล้วข้อมูลได้มาครบเกือบเต็มพื้นที่โดยมีพื้นที่เหลือใช้งานอีก 40GB โดยประมาณความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลแถบไม่ตกมากเลยเลยประสิทธิภาพดีจริง ๆ นี่คือสิ่งที่หลาย ๆ คนแม้นแต่เพื่อนผมถามถึงว่าหลังจาก Clone หรือย้ายข้อมูลจาก Harddisk ไป SSD แล้วความเร็ว SSD จะตกมั๊ยคำตอบคือตกครับแต่อาจจะเล็กน้อยสาเหตุก็มาจากหลาย ๆ ปัจจัยทั้งตัว Driver , Chipset Controller ในส่วนควบคุมการทำงานของ SATA Controller เองบนเมนบอร์ด แต่ผลทดสอบที่ได้ก็น่าพอใจอยู่เพราะใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่เขียนไว้ใน Spec ของตัว Kingston HyperX Savage SSD 240GB ครับ

Test with AS SSD 1.8 – Result

iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_234

คราวนี้อยากให้ดูค่า Access Time หรือการเข้าถึงข้อมูลกับ AS SSD 1.8 ถ้าค่าการอ่านเขียนตกไปและแตกต่างจากโปรแกรมเทส Crystal Disk ไม่ต้องแปลกใจครับแต่ให้เน้นดูค่า Acc.time เท่าที่เห็นคือเรียกได้ว่าการเข้าถึงข้อมูลทำได้ไวดีทีเดียว จะว่าไปแล้ว SSD จริง ๆ ออกแบบมาให้เราใช้เพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้นี่แหละครับเนื่องจาก Harddisk ปกติที่ใช้มอเตอร์ 7,200 รอบหรือ 5,400 รอบก็ดีมักมีคอขวดตรงค่า Acc.time นี่แหละแต่ยังไงซะตัว Kingston HyperX Savage SSD 240GB ที่ใช้ Chipset Controller Phison S10 เองก็แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอันน่าจดจำและดีงามใช่เล่นเลยล่ะ

[divider]

Phase 2 – USB 3.0 External Box Enclosure

P1150131จับ Kingston HyperX Savage SSD ใส่ลง External Box Enclosure เพื่อทดสอบประสิทธิภาพ

P1150136ภาพบรรยากาศขณะทดสอบตัวแปลง External Box Enclosure ไฟ LED ที่ตัวกล่องเป็นสีฟ้าสวยงามครับแถมตัวกล่องเองงานออกแบบดูหรูหราส่วนตัวชอบอย่างนึงคือสาย USB 3.0 ที่ให้มายาวดี ยาวราว ๆ 1.5 ฟุตไม้บรรทัดเลยล่ะ

Test with CrystalDisk Mark 4.0.3 – Result

แต่คราวนี้ผมเปลี่ยนเครื่องเทสโดยใช้ Desktop PC ที่ใช้การ์ด USB 3.0 โดยใช้ Chipset AsMedia Controller USB 3.0 บนเมนบอร์ด Asus M5A97 ทดสอบ

iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_125

ผลที่ได้คือความแตกต่างอย่างชัดเจนเมื่อนำ SSD มาใส่กับ External Box Enclosure ความเร็วที่ได้เอาจริง ๆ ค่าเฉลี่ยเมื่อใช้งานแบบ External Drive ค่าการอ่าน/เขียนข้อมูลอยู่ราว ๆ 100MB/s ก็นับว่าหรูหราแล้วครับมันก็ไวพอที่จะทำให้เรา Copy ไฟล์ขนาดใหญ่ ๆ ได้อย่างสบาย ๆ และประหยัดเวลาในการนั่งรอหรือเซฟงานต่าง ๆ

Test with AS SSD 1.8 – Result

iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_127ผลเทสกับโปรแกรม AS SSD นั้นก็ใกล้เคียงกับ CrystalDisk Mark เลยล่ะแล้วค่า Acc.time ก็สูงขึ้นกว่าแบบการเชื่อมต่อโดยตรงแบบ SATA ขึ้นมาหน่อยนึงแต่ประสิทธิภาพความเร็วในการอ่าน/เขียนข้อมูลยังสูงดีจริง ๆ

Test Real World Copy – Result

iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_bm_25

Copy ไฟล์ ISO จาก Harddisk ไป Kingston HyperX Savage SSD 240GB แบบต่อ External Box Enclosure ผลที่ได้ก็คือมันใกล้เคียงกับความเร็วที่เทสกับโปรแกรมทดสอบ Benchmark เลยล่ะเพราะไงซะค่าการเขียนจริง ๆ ก็น้อยกว่าค่าการอ่านตาม Spec อยู่ดีครับ

iReviewInTh_KingstonHyperX_SavageSSD_bm_28

ความนี้ทดสอบอีกครั้งโดยโยนไฟล์จาก Kingston HyperX Savage SSD 240GB ไป Drive C ที่เป็น SSD อยู่แล้วผลคือต้องทึ่งเพราะวิ่งสม่ำเสมอกว่าอย่างชัดเจนเพราะถ้าตัวที่ 1 เป็น SSD แล้วมีค่าอ่านใกล้เคียงกันแล้วปลายทางคือ SSD ที่มีค่าความเร็วในการเขียนใกล้เคียงหรือไล่ ๆ กันก็ทำให้สามารถ Copy ไฟล์ได้รวดเร็วดีแต่กระนั้นถ้าเป็น Harddisk ล่ะ? แน่นอนค่าการอ่าน/เขียนข้อมูลจะแกว่งลงกว่านี้เนื่องจากค่า Acc.time ของ Harddisk นั้นสูงกว่า SSD อยู่หลายเท่าตัวเลยทีเดียวและค่าการเขียนก็อาจจะน้อยกว่า SSD เสียด้วยซ้ำ

[divider]

ข้อดี

  • เรื่อง Firmware คาดว่าหายห่วงสำหรับ Kingston รวมไปถึงการ Support และบริการหลังการขายในไทย
  • ดีไซน์ตัว Body ทำออกมาได้สวยงามทีเดียวแต่เอาเหอะพอยัดมันลงเครื่องคอมเราก็ลืมแล้วว่าหน้าตามันเป็นยังไง
  • Packaging ทำออกมาได้สวยงามอุปกรณ์ที่ให้มาค่อนข้างครบครันสามารถนำไปใช้งานได้หลายรูปแบบที่เราต้องการ
  • ความเร็วในการอ่านเขียนค่อนข้างสม่ำเสมอทั้งสองทางทำให้เป็น SSD รุ่นนึงในตลาดที่มีพลังในการอ่านเขียนใกล้เคียงกันในราคาที่เอื้อมถึง
  • ประสิทธิภาพที่ได้ทั้งการอ่าน/เขียน ต่อราคา ต่อความจุบวกกับความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปทำให้เป็นตัวเลือกสำหรับนำมาใช้อัพเกรดเครื่อง Computer ทั้ง Desktop และ Notebook เป็นอย่างยิ่ง

ข้อเสีย

  • ไม่แถมถาดแปลงของ SSD สำหรับ Computer PC มาให้น่าผิดหวังในข้อนี้
  • ไม่แถม Software ใด ๆ มาให้แต่ยังดีที่ให้คูปองให้เราไปดาวน์โหลดโปรแกรม Acronics TrueImage HD มาเพื่อใช้ Clone Disk ได้

[divider]

สรุป

สำหรับในปัจจุบันตลาด SSD มีแนวโน้มทั้งความจุใหญ่ ๆ ราคาถูกลงเรื่อย ๆ ผู้ใช้เองก็สามารถเข้าถึงได้มากขึ้นเป็นทางเลือกนึงที่เสียงส่วนใหญ่มักบอกว่ามันเหมาะสำหรับนำมาอัพเกรดเครื่อง Computer PC / Notebook เก่า ๆ ให้มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าโดยเสียเงินนิดหน่อยเท่านั้นแต่เมื่อใช้งานแล้วกลับเหมือนได้ Computer PC / Notebook ที่เป็นเครื่องใหม่ขึ้นมาแทนการซื้อเครื่องใหม่ทั้งชุดซึ่งถ้าคุณกำลังมองหาและคิดว่าซื้อ SSD ที่มีประสิทธิภาพสูงในราคากลาง ๆ ความจุเยอะหน่อยนึงก็ลองจับ Kingston HyperX Savage SSD 240GB ตัวนี้ไปเป็นตัวเลือกในลิสต์รายการการซื้อดูเพราะรีวิวนี้เป็นเพียงส่วนนึงที่จะช่วยในการตัดสินใจเล็ก ๆ ของคุณเท่านั้นว่าเอ๊ะมันเหมาะหรือไม่แต่ผมยืนยันว่า Kingston HyperX Savage รุ่นใหม่นี้ Controller จาก Phison ไม่ห่วยเหมือน Sanforce ที่ Kingston เคยนำมาใช้ในรุ่นก่อน ๆ แน่นอนครับสำหรับรีวิวนี้ขอขอบคุณบริษัท Kingston Technology Company, Inc. เอื้อเฟื้ออุปกรณ์ให้เราได้ทดสอบครับสวัสดี